ปลูกพืชอย่างไรถึงเรียกว่า “ผักปลอดสารพิษ”
สถานการณ์การปลูกผักในปัจจุบัน
ในปัจจุบันเกษตรกรผู้ปลูกผักมักประสบปัญหาการระบาดรบกวนของศตรูพืชผักมากมายหลายชนิด เกษตรผู้ปลูกผักส่วยใหญ่จะใช้สารเคมีในการป้องกันกำจัดศัตรูพืช และมีแนวโน้มว่าจะมีการสารเคมีกำจักศัตรูพืชในปริมาณที่มากขึ้น และใช้สารที่มีพิษสูงยิ่งขึ้น อันเป็นผลทำให้ต้องเพิ่มต้นทุนในการผลิต ผลผลิตพืชผักมีสารพิษตกค้างอยู่มาก อีกทั้งเป็นการทำลายสิ่งแวดล้อม
จากข้อมูลปี 2536-2538พบว่าบริเวณพื้นที่การปลูกพืชเศรษฐกิจของประเทศไทยมีอัตราการใช้สารเคมีสูง เช่น พืชผักตระกูลกะกล่ำ พริก หอมแดง มะเขือเทศ มีการใช้สารเคมีกำจัดศตรูพืชประมาณ 25 ชนิด ในนาข้าวใช้ประมาณ 16 ชนิด ในผลไม้ใช้ประมาณ 21 ชนิด ในพืชไร่ต่างๆใช้สารเคมีประมาณ 19 ชนิดในไม้ดอกประมาณ 11 ชนิด สารเคมีต่างๆที่พบว่าเกษตรใช้ปรากฏว่ามีสารในกลุ่ม ออร์กาโนคลอลีน เช่น คอร์เดน ดิลดริน ไดโคฟอส เอ็นโดซัลเฟน และเฮปตาคลอร์ ซึ่งเป็นสารที่สลายตัวช้า และคงสภาพในสิ่งแวดล้อมได้ยาวนาน ไม่เหมาะสมที่จะนำมาใช้กับพืชอาหารเกษตรบางส่วนนำเอาสารเคมีกลุ่ม ออร์กาโนฟอสฟอรัส เช่น เมวินฟอส พาราไธออน-เมทธิลไดเมโทเอท เมทา-มิโตฟอสฯลฯบางกลุ่ม มีการใช้สารพวก คาร์บาเมท เช่น เมโทบิส คาร์โบฟูเรน คาร์โทซิลเฟน อยู่ด้วย
ปัญหาที่พบกันอยู่ทั่วไปคือ เกษตรกรผู้ใช้เกิดอาการแพ้สารพิษ เจ็บป่วย สัตว์น้ำตาย สารกำจัดวัชพืชบางชนิดใช้ไปนานๆทำดินเสื่อมสภาพไม่อุ้มน้ำเกิดความแห้งแล้ง ดังนั้นการจะผลิตพืชที่ใช้เป็นอาหาร เกษตรกรควรร่วมกันหาวิธีการที่ถูกต้องเหมาะสมเป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้รวมถึงผู้บริโภคซึ่งเป็นประชากรส่วนใหญ่
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น